April 23, 2024
Web Design & Web Development เป็นสองสายงานหลักในงานสร้างเว็บไซต์ ที่รับผิดชอบส่วนงานต่างกัน โดย Web design จะเน้นไปที่การออกแบบ User interface (UI) เพื่อสร้าง User experience (UX) ที่ดีให้กับกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย
ขณะที่ Web development จะเน้นไปที่การพัฒนาและเขียนโค้ด (Coding) เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้จะรับผิดชอบงานแตกต่างกันชัดเจน แต่ทั้งสองสายงานก็ยังต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และตอบสนองได้ต่อทุกความต้องการของผู้ใช้
ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน เว็บไซต์ (Website) ถือเป็นช่องทางสำคัญ ในการสื่อสารนำเสนอข้อมูลขององค์กรและธุรกิจได้กับทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเพื่อการนำเสนอข้อมูลสินค้า บริการ สร้างภาพลักษณ์ หรือใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้า “เปรียบเสมือนหน้าร้าน ที่ต้องดูน่าสนใจ ใช้งานง่ายสะดวก และมีประสิทธิภาพทำผู้ใช้ส่วนมากพึงพอใจได้”
แต่กว่าจะได้เว็บไซต์ที่ดีนั้น จำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ของทั้ง Web design & Web development
และถึงแม้ Web design กับ Web development จะดูคล้ายกัน แต่แท้จริงแล้วมีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่เรื่องของ Skill set เครื่องมือที่ใช้ และกระบวนการทำงาน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาด เจ้าของธุรกิจ หรือกระทั่งนักพัฒนาเว็บไซต์ (Web developer) ที่กำลังมองหาทีมงานมาช่วย หากเข้าใจถึงความต่างของทั้งสองส่วนนี้ จะยิ่งช่วยให้การทำงานร่วมกันเกิดความราบรื่น และได้ผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมา ตรงตามทุกความต้องการ
ก่อนไปดูการเปรียบเทียบรายละเอียดของทั้ง Web design & Web development เรามาทำความเข้าใจเรื่อง basic ของแต่ละส่วนกันก่อน
Web design เป็นการใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User interface) เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งาน (User experience) ของเว็บไซต์ ตั้งแต่การวางโครงร่างหน้าเว็บ (Wireframe) การวางตำแหน่งองค์ประกอบ (Layout) การเลือกใช้สี ฟอนต์ และกราฟิก จนถึงการออกแบบ Interaction กับ Animation เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ที่น่าประทับใจ
นักออกแบบเว็บ (Web designer) จึงต้องมีความเข้าใจในหลักการออกแบบ (Design Principles) ทฤษฎีสี (Color Theory) Typograph และจิตวิทยาผู้บริโภค (Consumer Psychology) รวมทั้งคอยติดตามเทรนด์การออกแบบใหม่ ๆ เสมอ ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ เช่น Adobe illustrator/Photoshop/XD, Sketch และ Figma
ขณะที่ Web development เป็นกระบวนการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ ให้ทำงานได้จริงตามที่ออกแบบโดย Web designer ด้วยการนำมาเขียนโค้ด แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ Front-end ที่รับผิดชอบส่วนที่ผู้ใช้มองเห็นและโต้ตอบได้บนหน้าเว็บ กับ Back-end ที่ดูแลระบบเว็บไซต์เบื้องหลัง เช่นการจัดการฐานข้อมูล ระบบเซิร์ฟเวอร์ และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ
นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web developer) จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในภาษาโปรแกรมมิ่ง เช่นอย่าง HTML, CSS, JavaScript สำหรับงานส่วน Front-end และภาษา Python, PHP, Ruby สำหรับงานส่วน Back-end อีกทั้งต้องชำนาญในการเลือกใช้เฟรมเวิร์คกับไลบรารี เพื่อช่วยให้งานพัฒนาเว็บไซต์ดำเนินไปได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อย่าง React, Angular, Vue.js หรือ Laravel
แม้ว่า Web design & Web development จะแตกต่างกันตามที่กล่าวไปหัวข้อก่อนหน้า แต่ทั้งสองส่วนกลับไม่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างสิ้นเชิง เพราะในทางกลับกัน ทั้ง Web designer และ Web developer จะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้นโปรเจกต์ เพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบที่สวยงาม จะสามารถนำมาพัฒนาเป็นเว็บไซต์ได้จริง
หากทีมขาดการสื่อสารที่ดีระหว่างงานส่วน Web design กับ Web development ก็มักจะเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาในภายหลัง เช่นการออกแบบที่ว้าวมาก แต่ไม่สามารถพัฒนาจริงได้ หรือการฝืนพัฒนาเว็บไซต์ที่ไม่ตรงตามการออกแบบ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้งานในท้ายที่สุด ทำให้ระหว่างกระบวนการพัฒนา ทั้ง Web designer กับ Web developer จะต้องสื่อสารให้ feedback กันอยู่เสมอ และทำความเข้าใจงานของกันและกัน เพื่อหาจุดร่วมที่ทำให้เว็บไซต์สำเร็จลุล่วงได้
ในโลกของการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ทำให้เกิดเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และใช้ได้กับงานทั้งส่วน Web design & Web development ต่อไปนี้ครับ
ทางด้าน Web Design
ทางด้าน Web Development
การติดตามนำเทรนด์ใหม่เหล่านี้มาปรับใช้ในงานทั้งส่วน Web design และ Web development สามารถช่วยให้มีโอกาสสร้างผลงานที่ทันสมัย น่าสนใจ และตรงใจของผู้ใช้งานได้มากขึ้น นำไปสู่การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน กับความสำเร็จทั้งในระดับบุคคล และองค์กรอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
สรุปแล้ว Web design & Web development คือสองส่วนสำคัญเพื่อการสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ มีความต่างกันในบทบาทหน้าที่ ทักษะ และเครื่องมือที่ใช้
Web design จะเน้นไปที่การออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (UI) เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งาน (UX) ที่ดี ขณะที่ Web development จะรับผิดชอบส่วนการพัฒนาและเขียนโค้ด (Coding) ให้เว็บไซต์ทำงานได้จริง ถึงแม้จะมีความต่างกัน แต่ทั้งสองสายงานจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และสื่อสารกันอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เว็บไซต์ที่เหมาะสมที่สุด
การเข้าใจถึงความต่าง และกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่าง Web design และ Web development ถือเป็น Basic สำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการก้าวเข้าสู่วงการการสร้างเว็บไซต์ ไม่ว่าจะในฐานะนักออกแบบ นักพัฒนา หรือแม้แต่ในมุมของเจ้าของกิจการและผู้ว่าจ้างเอง ความเข้าใจนี้จะช่วยให้สามารถวางแผน บริหารจัดการ และขับเคลื่อนโปรเจกต์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง สอดคล้องกับทรัพยากร/ระยะเวลาที่มี เพื่อนำไปสู่การสร้างเว็บไซต์ที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจ
หากธุรกิจของท่านกำลังมองหาทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งด้าน Web design & Web development พวกเราบริษัทรับทำเว็บไซต์Foxbith ยินดีให้บริการ ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของทีมงานทั้ง นักออกแบบเว็บ (Web designer) และนักพัฒนาเว็บ (Web developer)
เราพร้อมให้คำปรึกษา และดูแลเว็บไซต์ธุรกิจของท่านในทุกขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การพัฒนา จนถึงการบำรุงรักษาเว็บไซต์ในระยะยาว