February 22, 2024
ปัจจุบันเราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำหลาย ๆ อย่างได้ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน การทำงาน สื่อสาร ค้นหาข้อมูล หรือแม้แต่การเล่นเกม แต่ทั้งคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ นั้นจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย หากไม่มี ซอฟต์แวร์ (Software) ที่เปรียบเหมือนสมองสั่งการสำหรับใช้ควบคุมให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามที่เราต้องการ
ซอฟต์แวร์นั้นมี 2 ประเภทหลัก คือซอฟต์แวร์ระบบ กับ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ที่บทความนี้ เราจะมาลงลึกเรื่องของ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หรือ Application Software กันครับ ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร มีกี่ประเภท และมีที่มาที่ไปอย่างไร
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หรือ Application Software คือชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามความต้องการของผู้ใช้ โดยประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ ทั้งงานทั่วไปและงานเฉพาะด้าน โดยเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาหรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลข้อมูล การแสดงผล การควบคุมอุปกรณ์ หรือการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถทำงานได้บนหลายแพลตฟอร์ม ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
ที่มาของซอฟต์แวร์ประยุกต์ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม เมื่อคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับงานเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณทางวิทยาศาสตร์หรือการควบคุมเครื่องจักร ทำให้ซอฟต์แวร์ในยุคแรกถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้เท่านั้น
ต่อมา เมื่อคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูง ซอฟต์แวร์ประยุกต์จึงเริ่มพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายและหลากหลายขึ้น อย่างเช่น โปรแกรมประมวลผลคำ โปรแกรมตารางคำนวณ หรือโปรแกรมนำเสนอ ในยุคนี้ ซอฟต์แวร์ประยุกต์จึงเริ่มได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วไปเป็นวงกว้าง
ยุคปัจจุบัน ซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้มีการพัฒนาให้ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีใหม่เข้ามา โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญหาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่สามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับซอฟต์แวร์ได้หลากประเภท
ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์ สามารถแบ่งได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ในการจำแนก ในที่นี้จะแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการใช้ และตามลักษณะงานที่ใช้ต่อไปนี้
ความหมายคือการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่มีคุณสมบัติ ฟังก์ชัน และประสิทธิภาพตรงกับลักษณะของงานที่ต้องทำ ด้วยการพิจารณาจากความต้องการใช้งาน ว่าต้องใช้ซอฟต์แวร์ไหนเพื่องานอะไร ต่อไปนี้เป็น 7 ประเภทหลักของซอฟต์แวร์ประยุกต์ตามลักษณะงานที่ใช้
ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงประโยชน์จากการใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์บางส่วนเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานด้วย ว่าเลือกใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ตัวไหน กับงานรูปแบบอะไร และนำมาแก้ปัญหาหรือลดความซับซ้อนในการทำงานได้อย่างไร
ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือสิทธิตามกฎหมายที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะมีเหนือผลงานสร้างสรรค์ของตนเอง ตั้งแต่การเผยแพร่ จำหน่าย ดัดแปลง แก้ไข คัดลอก หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้ โดยที่บุคคลอื่นจะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์
การนำซอฟต์แวร์ประยุกต์มาใช้ นั้นมีประเภทของลิขสิทธิ์หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับลักษณะการคุ้มครองและการใช้งาน ต่อไปนี้
ในปี 2024 ซอฟต์แวร์ประยุกต์จะเน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับการเรียนรู้ด้วยตัวเองของคอมพิวเตอร์ หรือการทำ Machine Learning มากขึ้น ทำให้ซอฟต์แวร์เหล่านี้อัจฉริยะขึ้นมาก ทั้งการเรียนรู้ปรับตัวและการทำงานแบบอัตโนมัติ รวมถึงสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้ ด้วยเทคโนโลยี AR/VR และ MR
การพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ในปี 2024 นั้น นักพัฒนาควรต้องให้ความสำคัญมากในเรื่องความปลอดภัย กับความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้ เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึงต้องปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่างปลอดภัยที่สุด
สรุปแล้ว ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หรือ Application Software นั้นคือประเภทนึงของซอฟต์แวร์ (Software) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ทั้งงานทั่วไปและงานเฉพาะด้าน โดยแบ่งประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์ตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภทคือ ซอฟต์แวร์สำเร็จ (Package Software) กับซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ (Custom Software)
การพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ในปี 2024 ถือเป็นงานที่ท้าทายสำหรับ Software Developer เพราะจำเป็นต้องมีความรู้กับทักษะด้าน AI , การทำ Machine Learning และข้อกำหนดเรื่องความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ รวมถึงการต้องทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอื่น ทั้งการออกแบบ และการตลาด เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่มีคุณค่า ทำงานได้ดี และใช้งานได้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง