April 24, 2024
เว็บไซต์สำเร็จรูป คือเครื่องมือที่ช่วยสร้างหน้าร้านออนไลน์ได้เร็ว ง่าย และประหยัดต้นทุน โดยมีให้เลือกใช้ทั้งแบบสมัครสมาชิกและแบบติดตั้งเอง (ขึ้นอยู่กับความต้องการ)
ก่อนเลือกใช้ ควรศึกษาและเปรียบเทียบคุณสมบัติ ฟีเจอร์ ราคาแผนของแต่ละเจ้าอย่างละเอียด ให้สอดคล้องกับความต้องการและงบประมาณ ซึ่งควรมองไปถึงการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ให้มั่นใจว่าเว็บไซต์สำเร็จรูปที่เลือกจะรองรับการขยายตัวและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น
ยุคที่ธุรกิจออนไลน์กำลังโตอย่างต่อเนื่อง หลายธุรกิจเริ่มมองหาวิธีที่จะขายสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ต หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมคือการใช้ เว็บไซต์สำเร็จรูป เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์เองได้ ไม่ต้องเขียนโค้ด
แต่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายในตลาด ทำให้เป็นเรื่องท้าทายในการเลือกเว็บไซต์สำเร็จรูปที่เหมาะกับธุรกิจ บทความนี้ พวกเรา Foxbith เลยพามาดูเว็บไซต์สำเร็จรูปชั้นนำทั้ง 5 แพลตฟอร์ม พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีข้อเสีย และปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนจะเลือกใช้กันครับ
เว็บไซต์สำเร็จรูป (Website Builder) คือ แพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือออกแบบเว็บไซต์มากนัก สามารถเลือกจากเทมเพลตสำเร็จรูป แล้วปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ อย่างสี ฟอนต์ รูปภาพ และเลย์เอาต์ ให้ตรงกับความต้องการ
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีเว็บไซต์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเพื่อการขายสินค้าออนไลน์ นำเสนอผลงาน หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร เพราะเว็บไซต์สำเร็จรูปมีฟีเจอร์ที่ครบครัน ตั้งแต่ระบบตะกร้าสินค้า ชำระเงิน การจัดการสินค้าคงคลัง และการจัดส่ง ช่วยให้เจ้าของบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างครบวงจร
เว็บไซต์สำเร็จรูปแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ตามลักษณะการให้บริการและการทำงานของระบบ ตามนี้
ปัจจุบัน มีเว็บไซต์สำเร็จรูปสำหรับอีคอมเมิร์ซให้เลือกหลากหลายเจ้า แต่ละที่ต่างล้วนมีจุดเด่นแตกต่างกัน ทั้งในแง่ของฟีเจอร์ ราคา ความยากง่ายในการใช้ การปรับแต่ง และความเหมาะสมกับประเภทสินค้าบริการ
อาจทำให้ผู้ที่สนใจเปิดร้านค้าออนไลน์เกิดความสับสน ไม่รู้จะเลือกใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปเจ้าไหน และเพื่อให้ตัดสินใจง่ายขึ้น เราได้รวบรวมข้อมูลของทั้ง 5 แพลตฟอร์มเว็บสำเร็จรูปชั้นนำ มาเทียบกันต่อไปนี้
Shopify (shopify.com) เว็บไซต์สำเร็จรูปชั้นนำด้าน e-commerce ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ มีฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่นระบบจัดการสินค้าคงคลัง สร้างคูปองส่วนลด เชื่อมต่อกับระบบชำระเงินได้หลายประเภท พร้อมเทมเพลตร้านค้าให้เลือกมากมาย สามารถเชื่อมต่อกับช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram และ Amazon โดยตรงได้
แถมเว็บไซต์สำเร็จรูป Shopify ยังมีระบบ POS สำหรับการขายหน้าร้าน รวมถึงแอปพลิเคชันเสริมกว่า 2,000 แอป ให้เลือกใช้เพิ่มประสิทธิภาพร้านค้า สามารถจัดการได้ง่ายผ่านมือถือ แต่มีข้อเสียคือราคาเริ่มต้นสูงกว่าเจ้าอื่น
ราคาแผนของเว็บไซต์สำเร็จรูป Shopify
Wix (wix.com) เว็บไซต์สำเร็จรูปที่เด่นด้านความง่ายในการใช้งานและปรับแต่ง ด้วยระบบ Drag and Drop ที่ช่วยให้ออกแบบหน้าเว็บได้อย่างอิสระ มีเทมเพลตสำเร็จรูปกว่า 500 แบบให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกประเภทธุรกิจ พร้อมฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับทำอีคอมเมิร์ซ ทั้งการจัดการสินค้า การชำระเงิน และการจัดส่ง รวมถึงเครื่องมือเพื่อการตลาดอย่าง Wix SEO, Wix Chat และ Wix Email Marketing เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากมีร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง
แต่เมื่อเทียบกับ Shopify แล้ว Wix ยังขาดฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างที่จำเป็นสำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ เช่นการจัดการภาษีและค่าธรรมเนียม ระบบคลังสินค้า หรือการเชื่อมต่อกับระบบ POS ทำให้ Wix เหมาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดเล็กถึงกลางที่เน้นความสวยดูดีและใช้งานได้ระดับพื้นฐาน โดยไม่เน้นฟีเจอร์เฉพาะทางมากเกินไป
ราคาแผนของเว็บไซต์สำเร็จรูป Wix (Website Plans)
ราคาแผนของเว็บไซต์สำเร็จรูป Wix (Business and eCommerce Plus)
WordPress ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดปัจจุบัน ด้วยการปรับแต่งที่ทำได้เต็มที่ผ่านระบบปลั๊กอิน และธีมมากมาย ช่วยให้สร้างเว็บไซต์ได้ทุกรูปแบบ หลังติดตั้ง WordPress ผู้ใช้สามารถติดตั้งปลั๊กอิน WooCommerce ส่วนขยายสำหรับสร้างร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะได้
WooCommerce คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ผู้ใช้เลือกไปจัดการร้านค้าออนไลน์ ด้วยฟีเฟอร์ที่ครบครันตั้งแต่การจัดการสินค้า ตัวเลือกสินค้า การตั้งค่าการจัดส่งและภาษี ไปถึงการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกอื่น อย่างบัญชีธนาคาร บริการขนส่ง และซอฟต์แวร์บัญชี ซึ่งติดตั้งเพิ่มได้ผ่านปลั๊กอินที่มีให้เลือกหลายพันตัวบน WordPress
ราคาแผนของเว็บไซต์สำเร็จรูป WordPress (WooCommerce)
WooCommerce ดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของ WordPress
Squarespace (squarespace.com) เว็บไซต์สำเร็จรูปที่เน้นการออกแบบด้วยดีไซน์ทันสมัย มีสไตล์ ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความโดดเด่น ด้วยเทมเพลตที่ออกแบบโดยมืออาชีพให้เลือกกว่า 100 รูปแบบ ปรับแต่งได้ตามต้องการผ่านเครื่องมือ Style Editor โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ด
มีระบบอีคอมเมิร์ซสำหรับสร้างร้านค้าออนไลน์ในตัว พร้อมฟีเจอร์ตั้งแต่การสร้างหน้าสินค้า ตั้งค่าตัวเลือกสินค้า จัดการสต็อก ไปถึงการเชื่อมต่อกับระบบชำระเงินอย่าง Paypal และ Stripe ทั้งยังรองรับการขายสินค้าดิจิทัล การสร้างบัญชีผู้ใช้ การกำหนดค่าจัดส่ง และการออกรายงานการขายที่เข้าใจง่าย สามารถเชื่อมต่อกับ Social Media ได้ ไม่ต้องพึ่งปลั๊กอินภายนอก
ราคาแผนของเว็บไซต์สำเร็จรูป Squarespace
Weebly (weebly.com) เว็บไซต์สำเร็จรูปทางเลือกหนึ่งสำหรับสร้างร้านค้าออนไลน์ เน้นที่ความง่ายในการใช้งาน ผ่านระบบลากวางที่ช่วยให้สร้างหน้าเว็บได้รวดเร็ว ด้วยเทมเพลตที่มีให้เลือกกว่า 40 แบบ ที่แม้ไม่เยอะเท่าเว็บสำเร็จรูปอื่น ๆ แต่ก็ครอบคลุมเกือบทุกประเภทธุรกิจ
ส่วนของระบบอีคอมเมิร์ซในตัว Weebly นั้น มีเครื่องมือที่จำเป็นอย่างการเพิ่มสินค้า การจัดประเภทสินค้า การตั้งค่าจัดส่งและภาษี การจัดการสินค้าคงคลัง และการแสดงรีวิวจากลูกค้า พร้อมรองรับการชำระเงินผ่าน Stripe, Square, PayPal ฯลฯ รวมถึงมีแอปพลิเคชันเสริมให้ติดตั้งเพิ่มเติมบน Weebly App Center อีกด้วย ถึงอาจจะไม่หลากหลายเท่า Shopify หรือ WooCommerce แต่ก็เพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีสินค้าไม่กี่ประเภท
ราคาแผนของเว็บไซต์สำเร็จรูป Weebly
ทั่วไปเว็บไซต์สำเร็จรูปส่วนใหญ่จะมีแผนราคาฟรีหรือทดลองใช้ แต่มักมาพร้อมกับข้อจำกัดบางอย่าง ที่ควรพิจารณาก่อนเลือกใช้ ต่อไปนี้
ถึงแม้การใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปแบบฟรีทำร้านค้าออนไลน์จะช่วยประหยัดในระยะสั้น แต่สำหรับธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือและใช้งานขั้นสูงแบบมืออาชีพ เราแนะนำให้เลือกแผนราคาแบบเสียค่าบริการ เพื่อให้ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพดีกว่าครับ
การเลือกเว็บไซต์สำเร็จรูปให้เหมาะกับธุรกิจ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ดำเนินไปได้ราบรื่น เพราะแต่ละแพลตฟอร์มล้วนมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกัน ก่อนตัดสินใจเลือกใช้เจ้าไหน ผู้ประกอบการอาจลองพิจารณาตามปัจจัยตามนี้ดู
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางกว้าง ๆ ในการเลือกให้เหมาะกับธุรกิจเท่านั้น จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยเฉพาะของแต่ละธุรกิจเพิ่มเติมด้วย เพราะการเลือกเว็บไซต์สำเร็จรูปไม่มีสูตรสำเร็จ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความต้องการของตัวเองและธุรกิจอย่างชัดเจน ศึกษาข้อมูลแต่ละเจ้าให้ครบถ้วน และลองใช้งานจริงดูก่อน เพื่อตัดสินใจเองว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มไหนดี
สรุปแล้ว เว็บไซต์สำเร็จรูป (Website builder) เป็นเครื่องมือที่ช่วยผู้ประกอบการ ให้สามารถสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ได้ง่ายและเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือออกแบบเว็บไซต์มาก่อน มีให้เลือกใช้หลายแพลตฟอร์ม ทั้งแบบสมัครสมาชิกหรือแบบติดตั้งบนเว็บโฮสติ้ง ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสามารถทางเทคนิคของผู้ใช้
ในการเลือกเว็บไซต์สำเร็จรูปให้เหมาะกับธุรกิจนั้น สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาทุกปัจจัยอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การเลือกเว็บไซต์ให้เหมาะกับประเภทและขนาดธุรกิจ งบประมาณ จำนวนสินค้า คุณสมบัติ ความสามารถการปรับแต่งขยายระบบ จนถึงการสนับสนุนลูกค้าที่ดี เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้แพลตฟอร์มเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างครบถ้วน
สุดท้ายนี้ หากยังไม่มั่นใจหรือต้องการความช่วยเหลือในการสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ สามารถใช้บริการรับจ้างทำเว็บไซต์จากเรา Foxbith ได้ ตั้งแต่วิเคราะห์ความต้องการ แนะนำแนวทางที่เหมาะสม และพร้อมดูแลซัพพอร์ตในระยะยาว